โอกาสทางธุรกิจ ที่ทำเงินได้ ต้องเข้าใจพฤติกรรมใหม่ของคน
ธุรกิจที่คุณมองหา สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนยุคใหม่หรือป่าว?
หลังวิกฤต มักจะมีโอกาสให้กับผู้ค้นหาเสมอ
ธุรกิจเกิดใหม่ในช่วงเวลานี้ นอกจากจะเป็นการอาศัยช่วงวิกฤต ในการ “ต่อยอด” หรือ “แจ้งเกิด” สิ่งที่จะต้องคำนึง คือ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะพิษเศรษฐกิจ
พฤติกรรมของคนไทยในปี 2553 ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจถดถอย พบว่า ลักษณะพฤติกรรมของคนไทยมีลักษณะดังนี้
1. สุขแบบดับกระหาย…คือ ให้ความสำคัญกับความสุขง่ายๆ แต่ถี่ขึ้นบ่อยขึ้น ดังนั้นการช้อปปิ้ง จะไม่เลือกสินค้าขนาดใหญ่ราคาสูงแต่ มุ่งเน้นของกระจุกกระจิก
2. FREE&Promotion : ผู้คนในยุคปัจจุบันจะคุ้นเคยกับ “ของฟรี” ไม่ต้องจ่าย หรือ โปรโมชั่นเด็ดๆ ไม่ว่าจากนโยบายของรัฐ จนถึงภาคธุรกิจ เช่น ฟรีดาวน์โหลด เพลง หนังสือ โปรแกรม ดอกเบี้ย และอื่นๆ
3. หาข่าว : คน ไทยปัจจุบันต้องเผชิญกับการผันผวน ทำให้ผู้คนวันนี้ต้อง การเช็กข้อมูลล่าสุด เช่น ราคาน้ำมันที่เปลี่ยนแปลง ทองคำ ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค การจราจร รวมทั้งการอัพเดท บอกเล่าเรื่องราวของตนเองเพื่อ check rating ผ่าน Facebook, Twitter, Hi5
4. ยกระดับชีวิต : พฤติกรรม ของผู้คนที่เบื่อกับการฟังข่าวร้าย และ โฆษณาชวนเชื่อ ทำให้การหาความรู้ความบันเทิงจากสื่อแหล่งต่างๆ เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องการ สร้างรอยยิ้ม แม้แต่ ต้องแลกเปลี่ยนด้วยเงินทองก็ตาม
5. แมวเซาเฝ้าบ้าน : จากพิษเศรษฐกิจที่บีบรัด ทำให้เกิดปรากฏการณ์ของการอยากอยู่ติดบ้านมากขึ้น ยิ่งมีโรคใหม่ ไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ น้ำมันแพง โจรปาหิน ผู้คนปรับวิถีชีวิต ใช้ชีวิตในบ้านมากขึ้น หาความสุขอยู่กับบ้าน หารายได้อยู่กับบ้าน เพราะปลอดภัย สะดวกสบายขึ้น ดังนั้นผู้คนจะให้ความสำคัญกับ “สภาพในบ้าน” มากขึ้น
6. Credibility Ranking : สร้าง มูลค่าให้กับตนเอง เพื่อพร้อมที่จะฟันฝ่าอุปสรรคและพัฒนาตนเองให้เกิดความแตกต่าง ซึ่งกำลังเป็นแฟชั่นยอดฮิต ไม่ว่าจะเป็นการเข้าฟิตเนส เพื่อฟิต&เฟิร์มร่างกาย หรือ หลักสูตรอบรมต่างๆทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับหน้าที่การงานหรืออาชีพ โดยตรง เพื่อสร้างทักษะประสบการณ์ใหม่ ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในปัจจุบัน
7. เลียนแบบดารา : สังคมยิ่งเคลื่อนไหวไปมากเท่าไร การแสวงหา “ตัวตน” ที่แท้จริง ก็เริ่มปรากฏภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ผู้คนเริ่มมองหาสิ่งที่สามารถสะท้อนตัวตนและเชื่อมั่นในตัวตนโดยไม่รู้สึก ว่าถูกหลอกลวง ทุกวันนี้ Brand Ambassador หรือ presenter แทบจะมีความสำคัญมากกว่า Product เสียแล้ว
8. Use as is (ใช้ได้ก็พอแล้ว) : จากภาวะความฝืดเคืองของเศรษฐกิจ ทำให้ผู้คนเริ่มมองหาสินค้าที่ “ใช้ได้” มากกว่า “ใช่เลย” ผู้คนจะเทียบเครียงข้อมูลก่อนตัดสินใจ การแสวงหาความคุ้มค่า จึงมาเป็นอันดับหนึ่ง มากกว่าคุณค่าของสินค้า
ผู้คนเริ่มหันมาใช้ สินค้าแบรนด์เอเชีย เช่น เกาหลี ไต้หวัน หรือสินค้าแบรนด์ไทย ที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก
ซึ่ง เราอาจจะได้เห็นสินค้ามือสอง คุณภาพดี วางให้เห็นกันมากขึ้น เราอาจจะสังเกตเห็นการทดแทน ด้วยการใช้สินค้าหรือบริการ ที่มาในรูปแบบ Customize proposal อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมืออาชีพมากขึ้น ซึ่งได้ทั้งความรวดเร็วและตรงเป้าและคุ้มค่าอีกด้วย
9. Self-Maintenance : ในยุคที่ความฝืดเคืองมาเยือน ทำให้ผู้คนตระหนักในคุณค่า ทำให้คิดถึง “ต้นทุน” ในการดำรงชีวิต ข้าวของที่อยู่รอบตัวโดยเปลี่ยนเป็นการนำมาปรับปรุงซ่อมแซมใหม่ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น รวมถึงร่างกายของผู้คนในวันนี้ ที่ต้องใส่ใจเพื่อให้ต้นทุนในการดำรงชีพต่ำที่สุด
ดังนั้น การดูแลสุขภาพกำลังเป็น แฟชั่น โดยเฉพาะ มลภาวะเป็นพิษ สารพิษปนเปื้อนในอาหาร ยิ่งกระแสไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ที่ระบาดไปทั่วโลก ผู้คนต้องเร่งปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต ให้ปลอดโรค สร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง ด้วยการออกกำลังกายมากขึ้น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะมีบทบาทมากขึ้นและกลายเป็น “สิ่งที่จำเป็น” ที่ผู้คนต้องเลือกเพื่อเสริมสร้างตนเอง ให้ยืนหยัดได้กับการเปลี่ยนแปลง
และ นี้คือตัวอย่างธุรกิจของเราทีมงานบ้านอนัตตานักธุรกิจเครือข่ายกิฟฟารีน พยายามที่จะใช้ความรู้ความสามารถ ให้เพื่อนๆบนโลกไซเบอร์ใช้โอกาสในการปรับทิศทางใหม่ โดยการสร้างความแตกต่าง โดยคำนึงถึงพฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าพฤติกรรมนั้นจะเกิดจากการปรับตัวตามธรรมชาติ หรือการปรับตัวจากพิษภัยของเศรษฐกิจโลกก็ตาม
กิฟฟารีนเปลี่ยนรายจ่ายในชีวิตประจำวันมาเป็นทุน ต่อยอด เป็นรายรับ

ถ้ายังรู้สึกสับสน คุณสามารถ อ่านบทความใกล้เคียง "การปั่นเงินร้อยให้เป็นเงินล้าน"